Skip to main content
sharethis

ชาวกะเหรี่ยงจัดงานนมัสการพระเจ้าในโอกาสกองกำลัง ‘KNLA’ สามารถขับไล่ฐานทหารพม่าแห่งสุดท้าย ‘ซูแมท่า’ ริมแม่น้ำสาละวิน ตรงข้าม ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน

 

6 พ.ค. 2567 เว็บไซต์ สำนักข่าวชายขอบ รายงานเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2567 เวลาประมาณ 7.30 น. ที่ฝั่งรัฐกะเหรี่ยง ตรงข้ามบ้านสบเมย ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ประชาชนได้มีการจัดพิธีนมัสการพระเจ้า ในโอกาสที่กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ปีกทางการทหารแห่งสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กองพล 5 และกองกำลังฝ่ายปฏิวัติ ได้ร่วมกันยึดฐานทหารพม่า ของสภาบริหารรัฐพม่า (SAC) ฐาน 'ซูแมท่า' ได้สำเร็จเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ริมแม่น้ำสาละวิน พรมแดนไทยพม่า ไม่มีฐานทหารพม่าอยู่อีกแล้ว

ภาพเคลียร์ฐาน 'ซูแมท่า' ริมแม่น้ำสาละวิน เผยแพร่เมื่อ 12 เม.ย. 2567 (ที่มา: เพจเฟซบุ๊ก Chai Pongpipat)

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวชายขอบ บรรยายกิจกรรมว่าเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้าร่วมจำนวนมากราว 150 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้นำชุมชนชาวกะเหรี่ยงและชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งต่างมีความยินดีที่กับการขับไล่ฐานทหารพม่าได้หมดไปแล้วจากริมแม่น้ำสาละวิน ทำให้ประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้อย่างไม่ต้องหวาดกลัวอันตราย สามารถค้าขายได้ดีขึ้น

ชาวบ้านรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวชายขอบ กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่กองทัพพม่าส่งทหารมาคุมที่ 'ซูแมท่า' ตรงข้ามบ้านสบเมย ทำให้ประชาชนสัญจรไปมาลำบากมาก ขับเรือผ่านด่านก็หวาดกลัวว่าทหารพม่าจะยิง

"ตอนที่ทหารพม่าอยู่ ชาวบ้านกลัวมาก เขายิงปืนใหญ่กระสุนลงหมู่บ้าน ทำร้ายคุกคามชาวบ้านต่างๆ นาๆ ตอนนี้ทหารกะเหรี่ยงเอาฐานพม่าออกไปได้เราอุ่นใจและสบายใจ วันนี้เรามาจัดพิธีนมัสการให้พระเจ้าคุ้มครอง ให้เป็นแผ่นดินของเราที่สงบร่มเย็น" ชาวบ้าน กล่าว

สำนักข่าวชายขอบ รายงานว่า ฐาน 'ซูแมท่า' เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ เนื่องจากเป็นจุดบรรจบที่แม่น้ำเมย พรมแดนไทย-พม่า ไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน โดยในช่วงระยะเวลาราว 30 ปีที่ผ่านมา กองทัพพม่าได้ส่งทหารเข้ามาตั้งฐานตลอดแนวแม่น้ำสาละวินทั้งหมด 14 จุด ซึ่งเป็นสาเหตุของการละเมิดสิทธิมนุษยชนหลายประการโดยทหารพม่า เช่น การรีดนาทาเร้น กรรโชกทรัพย์ สังหาร และการข่มขืน

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงชายแดน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า สถานการณ์ในรัฐกะเหรี่ยงรอบๆ เมืองผาปูน ที่กองกำลังของ KNU ยึดได้ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน ยังคงมีความรุนแรง เนื่องจากสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ยังส่งเครื่องบินรบของพม่า เข้ามาเรื่อยๆ และมีการทิ้งระเบิดแทบทุกวัน ทำให้ประชาชนที่ต่างต้องหนีการโจมตีของพม่าไปอยู่ในค่ายผู้พลัดถิ่นภายใน (IDP) ที่สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) จัดไว้ให้ในป่า และต้องเผชิญความขาดแคลนอย่างสาหัส ชาวบ้านผู้พลัดถิ่นขณะนี้เรียกได้ว่าขาดแคลนทุกอย่าง ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ในอุทยานสันติภาพสาละวิน (Salween Peace Park) ขณะนี้มีผู้พลัดถิ่นจำนวนหลายหมื่นคน ต้องอยู่กันกระจัดกระจาย

สะท้าน ชีววิชัยพงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน กล่าวว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 เม.ย. - 5 พ.ค. 2567) ได้มีการบริจาคสิ่งของจำเป็นและความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมให้แก่ผู้พลัดถิ่นในเขตอุทยานสันติภาพสาละวิน ซึ่งปัจจุบันกระจายอยู่ตามลำห้วยต่างๆ และขาดแคลนเป็นอย่างยิ่ง

"มีผู้ใจบุญ จากหลายๆ จังหวัด เมื่อทราบข่าวก็ส่งของมาให้ มีทั้งอาหาร และของใช้จำเป็น มุ้ง เปลสำหรับผูกในป่าให้เด็กๆ  กลุ่มจิตอาสาในพื้นที่ก็ช่วยกันส่งไป แต่ที่ลำบากคือค่าใช้จ่ายในการจัดส่งความช่วยเหลือ ค่าน้ำมันรถ น้ำมันเรือ ซึ่งแพงมาก" ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ กล่าว 
 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net